ของหวานพื้นบ้าน

ของหวานพื้นบ้าน เปิดโลกขนมไทย

ของหวานพื้นบ้าน ของไทยเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ทางวัฒนธรรมของประชาชนไทยมาตลอดหลายศตวรรษ การอบรมและสืบทอดสูตรการทำขนมแบบดั้งเดิมนี้ได้มาจากลูกหลานและชาวบ้านที่รักษาประเพณีอันเป็นที่เคารพและสืบสานมาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เมนูของหวานง่ายๆ ทําเอง เป็นสิ่งที่รวบรวมประสบการณ์และเป็นที่รู้จักกันมาช้านาน 

เสน่ห์ของขนมที่สดใหม่และรสชาติที่หวานอร่อยยังทำให้มันเป็นที่น่าสนใจและทดลองเสมอในทุกๆ โอกาสของความสนใจเกี่ยวกับความอร่อยและวัฒนธรรมของประเทศไทยที่เราพบได้ในขนมที่แตกต่างกันทั่วประเทศ จากภาคเหนือไปจนถึงภาคใต้ 

บอกเล่าเรื่องราวของความอร่อยและประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นกับแต่ละชิ้นขนมอย่างน่าทึ่งและสนุกสนานที่ทำให้มันมีความสำคัญและยังคงความสดใหม่ในสมัยปัจจุบันได้อย่างดี

Share This:

ของหวานพื้นบ้าน

ที่มาของขนม

          ของหวานพื้นบ้าน คำว่า “ขนม” มาจากคำสองคำคือ “ข้าวหนม” และ “ข้าวนม” ซึ่งหมายถึงข้าวผสมน้ำอ้อยและน้ำตาล โดยคำว่า “หนม” แปลว่า หวาน จึงกลายเป็น “ข้าวหนม” หรือ “ขนม” ที่เรียกสั้น ๆ อย่างเร็ว ๆ เรื่องของข้าวนม (หรือข้าวเคล้านม) เป็นตำนานสมัยโบราณเช่นข้าวมธุปายาส (ที่นางสุชาดาเสริมถวายพระพุทธเจ้า) เป็นตัวอย่างขนมหวานไทยที่ไม่ใช่ข้าว 

          แต่เป็นอาหารที่ทานหลังจากอาหารคาว เช่นในมื้อกลางวันทานก๋วยเตี๋ยวไก่และทับทิมกรอบ ขนมหรือผลไม้เป็นเครื่องหวานที่สำคัญ ของหวานไทยมีอะไรบ้าง โดยมากมื้อใหญ่เช่นเช้า กลางวัน และเย็น ควรมีอาหารคาวและอาหารหวานพร้อมกัน

          การใช้ขนมหวานหลังอาหารคาวไม่จำกัดเพียงการทานเมื่อกินเต็มท้องเท่านั้น ของหวานกะทิ ยังสามารถทานเป็นของว่างเมื่อไม่ได้รับอาหารคาว การใช้คำว่า “ขนม” มีหลายความหมายและยากที่จะแน่ใจได้ว่า “ขนมไทย” เกิดมาเมื่อไรครั้งแรก แม้ว่าประวัติศาสตร์แสดงการจารึกชื่อขนมในหน้าจารึกสมัยโบราณ เช่นข้อความที่ว่า “ไข่กบนกปล่อย บัวลอย อ้ายตื๊อ” 

          แต่หากถามคนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับขนมนี้จะทราบว่า ไข่กบหมายถึงเม็ดแมงลัก นกปล่อยหมายถึงลอดช่อง บัวลอยหมายถึงข้าวตอก อ้ายตื๊อหมายถึงข้าวเหนียว ขนมทั้งสี่ใช้น้ำกะทิอย่างเดียว โดยใช้ถ้วยใส่ขนม 4 ชนิดเหล่านี้เรียกว่า “ประเพณี 4 ถ้วย” หรือ “ประเพณี 4 รส”

ขนมไทยพื้นบ้านภาคเหนือ

          ของหวานพื้นบ้าน ภาคเหนือทั่วไปมักถูกทำจากข้าวเหนียวและใช้วิธีการต้ม ตัวอย่างเช่นขนมเทียน ขนมวง และข้าวต้มหัวหงอก ซึ่งมักถูกทำขึ้นในงานเฉลิมฉลองสำคัญ เช่นเข้าพรรษา และงานสงกรานต์ 

          ขนมที่นิยมทำในงานบุญเกือบทุกเทศกาลคือขนมใส่ไส้หรือขนมจ๊อก ของหวาน พื้นบ้านภาคเหนือ ขนมที่มีจำหน่ายอย่างทั่วไปรวมถึงขนมปาดที่คล้ายกับขนมศิลาอ่อน ข้าวอีตูหรือข้าวเหนียวแดง และข้าวแตนหรือข้าวแต๋น นอกจากนี้ยังมีขนมเกลือ 

          เมนูของหวานไทยโบราณ ง่ายๆ ซึ่งมักถูกบริโภคในช่วงฤดูหนาว เช่นข้าวหนุกงา ซึ่งเป็นข้าวคั่วผสมกับข้าวเหนียว มีอีกหลายชนิดเช่นข้าวแคบหรือข้าวเกรียบที่เป็นวุ้นข้าวผสมถั่วแปะยี และขนมพื้นบ้านเช่นขนมอาละหว่าที่คล้ายขนมหม้อแกง 

          แต่มีการหมักแป้งก่อนทำ และขนมส่วยทะมินที่ทำจากข้าวเหนียวนึ่ง น้ำตาลอ้อยและกะทิ นอกจากนี้ยังมีขนมอีก 2 ชนิดคืองาโบ๋ที่ทำจากน้ำตาลอ้อยเคี่ยวให้เหนียวและคลุกกับงา และตังเมที่ทำจากน้ำตาลอ้อยถั่วแปยีคล้ายถั่วตัด

ขนมไทยพื้นบ้านภาคอีสาน

          ของหวานพื้นบ้าน ของภาคอีสานเป็นส่วนสำคัญที่สะท้อนวัฒนธรรมและการสร้างอาหารที่แสนอร่อยอย่างง่าย และมีความหลากหลายทั้งในรสชาติและวิธีการทำ เช่น ข้าวจี่ และมะขามบ่ายข้าว ซึ่งถือเป็นขนมพื้นบ้านที่โด่งดังในอีสาน 

          เหล่านี้ไม่เพียงเป็นขนมอร่อยที่นิยมบริโภคเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมและงานบุญต่าง ๆ ของชาวในพื้นท้องถิ่น เช่น ข้าวประดับดิน และขนมปาดที่เตรียมในงานพิธีต่าง ๆ

          นอกจากข้าวจี่และมะขามบ่ายข้าวแล้ว ยังมีขนมอื่น ๆ เมนูของหวานไทยง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวจิ้มน้ำผึ้ง และข้าวบ่ายเกลือ ที่มีรสชาติที่หลากหลาย และขนมอื่น ๆ เช่น น้ำอ้อยกะทิ และข้าวพอง ที่เตรียมและนำไปใช้ในงานบุญต่าง ๆ ของภาคอีสานอีกด้วย 

          ภูมิภาคนี้มีความหลากหลายและคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญในประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งค่ะ และเป็นที่รู้จักในหลายสถานที่ด้วยความอร่อยและคุณค่าทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในขนมท้องถิ่นของพื้นท้องถิ่นนี้ค่ะ

ขนมไทยพื้นบ้านภาคกลาง

          ของหวานพื้นบ้าน ที่เป็นลักษณะของภาคกลางของประเทศไทยมักมีความหลากหลายและเป็นที่รู้จักในการใช้ข้าวเจ้าเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำขนม อย่างเช่น ข้าวตัง นางเยี่ยวเล็ด และข้าวเหนียวมูน เป็นต้น 

          นอกจากนี้ยังมีขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากราชวังและพระราชวังที่ได้รับการยอมรับและแพร่หลายไปยังประชาชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย และขนมเผือก ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของขนมไทยที่มีให้เลือกหลากหลายตามภูมิภาคและวัฒนธรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย 

          การใช้ข้าวเจ้าเป็นส่วนสำคัญทำให้ขนมไทยมีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในวงการอาหารไทยและที่บ้านของคนไทยทั่วไปที่รักการทำอาหารด้วยใจรักและความพยายามในการเรียนรู้และสืบทอดประสบการณ์ทำขนมของบรรพบุรุษและผู้ใหญ่ในครอบครัวของพวกเขาไปเรื่อย ๆ ลงมาจนถึงปัจจุบัน น้ำกะทิ เมนู ของหวาน ไทย 

          ซึ่งทำให้ขนมไทยนับเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและการประพฤติของคนไทยมาช้านานโดยตลอดการสืบทอดวิถีและวัฒนธรรมทางอาหารของท้องถิ่นของคนไทยทั่วประเทศไทยอย่างยั่งยืนด้วยความรักและความภูมิใจในอาหารและวัฒนธรรมของตนเองครั้งใดก็ตาม 

          สิ่งสำคัญคือการรักษาการทำขนมไทยให้คงคุณภาพและรสชาติเดิมโดยการถือปฏิบัติขั้นตอนการทำตามวิธีของโบราณจนถึงปัจจุบันเพื่อสืบทอดวิถีและวัฒนธรรมทางอาหารของท้องถิ่นให้รุ่งเรืองไปต่อไปในอนาคตของคนไทยด้วยกัน

ขนมไทยพื้นบ้านภาคใต้

          ในภาคใต้ของประเทศไทยนั้นมีประสบการณ์และภูมิปัญญาในการทำ ของหวานพื้นบ้าน ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้พิธีกรรมและสงวนวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เช่นในเทศกาลวันสารท เดือนสิบที่เป็นการบูชาและอวยพรที่เฉพาะเฉพาะของชาวใต้ 

          นอกจากการเป็นการสร้างพลังบวงสรวงและเข้าทำบุญด้วยขบวนการที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่น ยังมีการเสริมสร้างชุมชนด้วยขนมลา, ขนมพอง, ข้าวต้มห่อใบกะพ้อ, ขนมบ้า, ขนมดีซำ, ขนมเจาะหู, ขนมไข่ปลา และขนมแดง ซึ่งเป็นแนวเส้นหลักของความเป็นท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นใต้.

          ของหวาน พื้นบ้านภาคใต้ และวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมของชาวใต้ไม่ธรรมดา เช่น ขนมหน้าไข่ ทำจากแป้งข้าวเจ้านวดกับน้ำตาล ที่เติมไปด้วยความหอมหวานจากกะทิผสมไข่ และเครื่องเทศเช่นกะเทียม, ตะไคร้, และหอมหัวใหญ่ ขนมฆีมันไม้ ที่เป็นขนมของชาวไทยมุสลิมทำจากมันสำปะหลัง อาหารหวาน10ชนิด ขนมจู้จุน ขนมคอเป็ด ขนมคนที และขนมกอแหละ เป็นเพียงเล็กๆ น้อยๆของที่เราพบได้ในเทศกาลและงานสารทของชาวใต้เท่านั้น 

           เรื่องนี้ยังเป็นหนึ่งในเรื่องที่สามารถประสบความสำเร็จในการรักษาวัฒนธรรมและสิ่งที่เป็นท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืนด้วยความเข้าใจของประเทศไทยและความเป็นเอกลักษณ์ของมันที่มีทั้งการบูชาพิเศษและการเชื่อมั่นทางศาสนาของท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง

Share This: